วิธีบริหารเวลาอย่างฉลาด มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้าง Work-Life Balance ที่ดี

      Work-Life Balance ทุกคนอาจจะเห็นคำนี้ได้บ่อยในทุก ๆ วันนี้ เพราะแนวคิดของการโหมงานหนักเพื่ออนาคตที่มั่นคงนั้นเริ่มเลือนหายไป เนื่องจากคนในยุคยุคนี้มีความคิดที่ว่า ชีวิตนั้นไม่ได้มีแค่การทำงานอย่างเดียว ชีวิตในด้านอื่น ๆ จำเป็นต้องได้รับความเอาใจใส่ควบคู่กันไปด้วย

       ดังนั้นระยะเวลาภายใน 24 ชั่วโมงที่เรามีอยู่อย่างจำกัดภายใน 1 วัน ก็ควรได้รับการจัดสรรให้เหมาะสม แต่จะจัดอย่างไร ในเมื่อชีวิตของแต่ละคนนั้นต่างกัน วันนี้เราจะพาไปดูวิธีบริหารเวลาอย่างง่าย ๆ แต่มีประสิทธิภาพกัน 

Table of Contents

การจัด Work - Life Balance แบบเฉพาะวัน

  1. การเข้านอนและตื่นนอน

การตื่นนอนแต่เช้าของแต่ละคนนั้นอาจไม่เหมือนกัน ในที่นี้คือไม่ได้กำหนดว่าจะต้องตื่น 7 หรือ 8 โมง เพราะบางคนอาจจะเข้างานช่วงบ่ายหรือค่ำ ซึ่งในที่นี้เป็นการคำนวนจากระยะเวลาที่เราเริ่มนอนนั่นคือควรมีระยะเวลาในการนอนประมาณ 6 ชั่วโมง ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะสม และยังเหลือเวลาถึง 18 ชั่วโมงในการใช้ชีวิตอื่น ๆ

       2. การจัดตารางเวลาล่วงหน้า

ในช่วงท้ายของวันควรจัดเวลาในการทำสิ่งต่าง ๆ สำหรับวันต่อไปไว้เลย เพื่อที่การดำเนินชีวิตจะไปเป็นไปอย่างลื่นไหล อาจจะทำก่อนนอนหรือช่วงหลังเลิกงานก็ได้ แล้วเมื่อตื่นมาในอีกวันก็ใช้เวลาช่วงหลังตื่นนอนทบทวนตารางก่อนเริ่มดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ

       3. ขีดเส้นคั่นคำว่างานและชีวิต

สองสิ่งนี้ในมุมของมนุษย์เงินเดือนสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องมีการกำหนดอย่างชัดเจน เพื่อที่เวลาเราดำเนินชีวิตอยู่ในสัดส่วนของอย่างใดอย่างหนึ่ง อีกสิ่งหนึ่งที่เหลือจะได้ไม่มารบกวนใจ เช่น ในเวลาทำงานไม่ควรนำเรื่องส่วนตัวมาคิด เนื่องจากงานอาจจะล่าช้า  และเวลานอกทำงานก็ควรเลิกคิดเรื่องงาน เพื่อที่เราจะได้พักผ่อนสมองบ้างหลังจากเครียดมาทั้งวัน

การจัด Work - Life Balance แบบรายสัปดาห์

ในเทคนิคแบบรายสัปดาห์จะนำเอาเทคนิคแบบเฉพาะวันมาใช้ทั้งหมด แต่จะประยุกต์ในบางส่วน

  1. ยืดหยุดเวลานอนและเข้านอนเล็กน้อยในวันหยุด

ในวันหยุดอันมีค่าของเรานั้น แน่นอนว่าหากเราขีดเส้นเวลาระหว่างคำว่างานและชีวิตและชัดเจนแล้ว วันหยุดคือวันที่เราใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ดังนั้นการเข้านอนและตื่นนอนอาจยืดหยุ่นได้เล็กน้อย แต่ไม่ควรให้ทากเกินไปเพราะจะทำให้ร่างกายเรารวนได้ และระยะเวลานอนอาจเพิ่มขึ้นเป็น 8 ชั่วโมงก็ได้ 

       2. ความสำคัญต้องมาก่อน

การจัดสรรในเรื่องหรือธุระที่สำคัญมาก ๆ นั้นควรนำมาทำให้เร็วที่สุดเสมอ ควรทำในวันที่ทำได้ทันทีเนื่องจากหากปล่อยไว้นาน ๆ อาจทำให้มีเรื่องสำคัญอื่นเข้ามา ทำให้การจักสรรเวลาทำได้ลำบากมากขึ้น

       3. หาแรงบัลดาลใจในการดำเนินชีวิต

วิธีนี้เป็นการบริหารแนวความคิดในการกำจัดระบบความคิดแย่ ๆ ของตัวเรา ทั้งในเรื่องของความขี้เกียจ หรือไฟในการดำเนินชีวิตที่มอดลงเรื่อย ๆ จนส่งผลให้ตัวเรานั้นมีการดำเนินชีวิตที่เป็นไปอย่างไม่ราบรื่น ดังนั้นควรหมั่นหาแรงบัลดาลใจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ ภาพยนตร์ หรือแม้กระทั่งการพูดคุยกับบุคคลต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างกระบวนการคิดของเราให้แข็งแรงอยู่เสมอ

การบริหารเวลาในช่วงทำงาน

ในช่วงเวลาทำงานของคนทั่วไปในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 9 – 10 ชั่วโมง ต่อวัน ซึ่งถือว่าเป็นเวลาส่วนใหญ่ใน 1 วันเลยทีเดียวดังนั้น การบริหารเวลาให้เราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีสุขภาพจิตที่ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน

  1.  การจัดการงานที่สำคัญหรือยากก่อน
งานที่สำคัญหรืองานที่อยากนั้นมักต้องใช้ความจดจ่อและขั้นตอนที่ซับซ้อนกว่า ดังนั้นควรทำให้เส็จไปก่อน หากนำงานอื่นเข้ามาแทรกจะทำให้ความต่อเนื่องลดลง และระยะเวลาในการดำเนินการก็จะมากขึ้น 
 
       2. ออกกำลังกายก่อนไปทำงาน 
 
หากเราเผื่อเวลาในช่วงเช้าไว้สักนิด ในการออกกำลังกายก่อนไปเข้างาน จะทำให้ร่างกายของเรากระปรี้กระเปร่ามากขึ้น สมองจะทำงานได้ดีและสดชื่นขึ้น ทำให้การทำงานของเราเป็นไปอย่างลื่นไหลมากขึ้น 
 
       3. พักบ้างระหว่างวัน
 
ในระหว่างการทำงาน หากเกิดความเหนื่อยล้าควรหาระยะเวลาพักผ่อนบ้างสัก 10 – 15 นาที อาจจะเป็นการดื่มกาแฟ หรือการเดินไปมาเพื่อช่วยลดความเหนื่อยล้า เมื่อกลับมาทำงานอีกครั้งหนึ่งเราก็จะได้ทำงานได้ลื่นไหลขึ้นเหมือนเดิม

Work - Life Balance ที่ดีเป็นอย่างไรกันแน่

       การสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิตนั้นเป็นเรื่องส่วนบุคคล เราไม่สมารถระบุได้ว่าใครควรจะใช้ชีวิตแบบนี้ บางคนมีความสุขกับงานจนเรียกได้ว่างานคือชีวิต บางคนไม่มีความสุขกับงานที่ทำอยู่สักนิด แต่ถ้าเลือกได้ก็ควรเลือกงานที่เราไม่เครียดหรือกัดดันมากเกินไป ส่วนเรื่องการใช้ชีวิตก็ใช้ตามที่ใจปรารถนา โดยที่ไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพและไม่เดือดร้อนผู้อื่น

       ซึ่งถ้าจะถามว่า Work – Life Balance ที่ดีเป็นอย่างไรกันแน่ คำตอบง่าย ๆ ก็คือขึ้นอยู่มุมมองของตัวเราระหว่างสิ่งที่ชอบกับเงิน เราจะสร้างสมดุลต่อสองสิ่งนี้อย่างไร เราจะขยันให้หนักเพื่อที่จะได้ใช้เงินเพียงแค่วันหยุดสุดสัปดาห์ หรือเราจะทำงานเพื่อให้ได้เงินให้พอกับความต้องการของเรา แล้วก็ออกไปสนุกทุกวันหลังเลิกงาน สุดแล้วแต่ความชอบของใครของมัน แต่หลักง่าย  ๆ ที่อยากให้หยึดไว้นั่นก็คือ ผลลัพธ์สุดท้ายแล้วเรานั้นมีความสุขและพอใจกับชีวิตของตนเอง

สรุป

สุดท้ายแล้วจุดมุ่งหมายของ Work – Life Balance นั่นก็คือการบริหารจัดการเวลาชีวิตของเราให้มีความสุข และดำเนินไปอย่างราบรื่น 

     เช่นเดียวกับเว็บไซต์ Lottoone ที่สร้างความสุขให้กับทุกคนได้อย่าราบรื่น จากทีมงานที่มีคุณภาพ ให้ผู้เล่นได้สัมผัสกับความสะดวกสะบายทุกครั้งที่ใช้บริการ พร้อมด้วยอัตราจ่ายที่สูงที่สุดในประเทศไทย ดังนั้นผู้เล่นทุกคนจึงสบายใจทุกครั้งเมื่อใช้เว็บไซต์ของเราแน่นอน สามารถ สมัครสมาชิก ได้แล้ววันนี้

Leave A Comment?