พลังจิตมีจริงไหม การฝึกพลังจิตมีมานานตั้งแต่อดีตนับพันปีเป็นเรื่องจริงหรือไม่

       บนโลกของเราทุกวันนี้เดินหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้งด้วยวิทยาศาสตร์ การค้นพบสิ่งใหม่ ๆ มากมายส่งผลให้เราแก้ไขสิ่งที่เป็นปัญหาหรือไม่สะดวกสะบายให้ดีขึ้น ปริศนาต่าง ๆ ที่เคยเป็นดั่งโจทย์ที่ไม่มีวันแก้ได้ในอดีตกลับถูกคลี่คลายไปได้ทีละข้อ แต่ก็ยังมีอีกหลายข้อเช่นกันที่จวบจนทุกวันนี้มันก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่

       เช่นเดียวกับหลายเรื่องเหนือธรรมชาติอื่น ๆ เรื่องของพลังจิตนั้นมีการกล่าวถึงมานานนับตั้งแต่ยุคโบราณ แตกแขนงออกเป็นความเชื่อ ศาสนา หรือลัทธิต่าง ๆ แต่ก็ยังไม่มีอะไรที่จะมาสนับสนุนความเชื่อด้านนี้ว่าเป็นจริง 100% และสุดท้ายมันคือเรื่องโกหกหรือเปล่า หรือมันคือเรื่องจริงที่ยังซ่อนความลับเอาไว้อยู่ วันนี้เราจะมาวิเคราะห์กัน

ความหมายของพลังจิต

       ณ ปัจจุบัน ผู้คนมีความเข้าใจกับพลังจิตในขอบเขตที่น้อย ดังนั้นผู้คนทั่วไปก็จะนิยามความหมายของพลังจิตไปตามชื่อเรียกของมัน กล่าวคือพลังจิตคือพลังหรือผลของการกระทำที่มาจากจิตโดยไม่ใช้แรงจากกายอื่น ๆ ช่วย เช่น การรับรู้ความคิดผู้อื่น การสื่อสารกับคนอื่นโดยที่ไม่ต้องพูดหรือให้สัญญาณทางการมอง รวมไปถึงการควบคุมจิตใจให้ระดับสัญชาติญาณเพื่อเพิ่มสมรรถภาพทางร่างกาย เป็นต้น

     ในสังคมปัจจุบันมีการกล่าวอ้างจากตัวบุคคลซึ่งอ้างว่าตนมีพลังจิตหลายกรณี แต่เมื่อผ่านการพิสูจน์ก็พบว่าส่วนใหญเป็นเพียงเรื่องหลอกลวง มีบางกรณีที่ตรวบสอบไม่ได้แต่ก็ไม่พบหลักฐาณที่จะมาพิสูจน์ว่าพลังจิตของบุคคลผู้นั้นมีอยู่จริง ในปัจจุบันก็มีการค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องนี้เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในแวดวงต่าง ๆ 

การฝึกพลังจิต

       ในความเชื่อหนึ่งที่มีความเกี่ยวเนื่องกับศาสนาพุทธนั้น มีขั้นตอนในการฝึกพลังจิตอยู่ ซึ่งผลของมันยังไม่มีการพิสูจน์ แต่มีการอ้างถึงกรณีที่เกิดขึ้นตั้งแต่โบราณ เช่น ฤาษีหรือโยคสมัยก่อน นักบวชที่ต้องการควบคุมจิตให้นิ่ง ซึ่งผลของพลังจิตนั้นทำให้สามรถทำสิ่งต่าง ๆ ได้หลายอย่าง เช่น หายตัว เดินบนน้ำ หรือเปลี่ยนสสารวัตถุได้

ขั้นตอนการฝึกนั้นมี 6 ขั้นตอน คือ

1.ควบคุมความคิดให้สงบ

จากเคลื่อนไหวของร่างกายและจิตใจที่ไม่หยุดนิ่ง มีสติรู้เท่าทันต่อความคิดต่างๆที่เกิดขึ้น หยุดการคิดปรุงแต่งที่ต้องใช้พลังงาน  ด้วยการนั่ง นอนหรืออิริยาบถที่สะดวก ฝึกในสถานที่สงบเหมาะสมกับฝึก


2.ทำจิตให้ปรอดโปร่ง

จากสิ่งดึงรั้งคืออารมณ์ต่างๆที่ไม่น่าปราถนา แก้ไขอารมณ์ที่ทำให้สูญเสียพลังไปกับการคิดต่างๆที่ไม่เกิดประโยชน์ โดยคิดในทางตรงข้าม
  
3.รวบรวมพลังจิต เมื่อทำจิตให้เกิดสมาธินิ่งสงบจากความคิดต่างๆสร้างภาพในใจ โดยกำหนดให้จิตคิดติดอยู่กับฐานที่กำหนด ไม่ว่าจะเป็นลมหายใจ ร่างกาย หรือวัตถุ
         
4.สร้างพลังจิตให้แรงกล้า 

ด้วยการฝึกดังกล่าวจนมีสมาธิโดยไม่ต้องนั่งหลับตา มีจิตสงบนิ่งเข้มแข็งในทุกอิริยาบถของการเคลื่อนไหว ร่างกายเคลื่อนไหวแต่จิตหยุดนิ่งอยู่กับมโนภาพ


5.การใช้พลังจิต

กำหนดและควบคุมสรรพสิ่งให้เป็นไปตามที่ต้องการ การปล่อยคลื่นกระแสไฟฟ้าจากสมองผ่านหน้าผากสุ่ภายนอกเพื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงตามที่ต้องการ เช่น

6.ฝึกจิตพิจารณาความจริงทางธรรมชาติ

พิจารณาว่าวัตถุและสรรพสิ่งเปลี่ยนแปลงเสมอ โลกหมุนทุกวันทุกสิ่งไม่หยุดนิ่งเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เกิดความรู้เพื่อละสังโยชน์ตัดเครื่องผูกมัดจิตไว้ในโลก เข้าสู่นิพพาน นิพพานอยู่ที่จิต นิพพานอยู่ทุกที่เมื่อใดจิตไม่อยากอยู่กับโลกก็จะเข้าสู่นิพพาน 

พลังจิตในหน่วยงานของอเมริกา

       ในหนังสือเล่มหนึ่งที่มีชื่อว่า Phenomena: the secret history of the U.S. Government’s investigations into extrasensory perception and psychokinesis (แปลเป็นไทยได้ว่า ปรากฏการณ์: ประวัติศาสตร์ลับของการสืบสวนสอบสวนโดยรัฐบาลสหรัฐฯ ในเรื่องสัมผัสที่หกและพลังจิตเคลื่อนย้ายวัตถุ) เขียนโดยแอนนี เจค็อบเซน (Annie Jacobsen) ได้พูดถึงเรื่องพลังจิตและสัมผัสที่ 6 ไว้โดยแต่ละเหตุการณ์นั้นได้มีการสืมสวน รวบรวม และตรวจสอบโดยนักวิทยาศาสตร์และแพทย์หลายคน โดยเราจะยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่น่าสนใจมาสองเหตุการณ์

วิดีโอจากเลนินกราด

       วิดีโอหนึ่งจากสถาบันวิจัยการทหารแห่งหนึ่งในเลนินกราด เป็นการทดลองของหญิงสาวคนหนึ่ง ที่สามารถใช้พลังจิตหยุดการเต้นของหัวใจของกบได้  โดยที่เธอนั้นยืนอยู่ห่างจากตัวกบถึง 1.5 เมตร อีกทั้งเธอยังสามารถใช้พลังจิตเคลื่อนย้ายสิ่งของได้ ในหนังสือระบุว่าเธอยังสามารถลดอัตราการเต้นของหัวใจของเจ้าหน้าที่ที่ดูเหมือนจะไม่เชื่อในพลังของเธออีกด้วย

อูริ เก็ลเลอร์

       อูริ เก็ลเลอร์เป็นนักพลังจิตที่โด่งดังมากคนหนึ่ง  เขาเคยสมัครเข้าไปเป็นทหารของสหรัฐอเมริกาเพื่อที่จะบรรจุเป็นสายลับ แต่เนื่องจากบุคคลที่เป็นเส้นสายของเขาได้เสียชีวิตไปก่อน เขาจึงปลดประจำการและดำรงชีวิตด้วยการโชว์พลังจิตไปเรื่อย ๆ 

       มีหนึ่งเหตุการณ์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับเก็ลเลอร์เป็นอย่างมาก นั่นคือในคืนที่เขาจัดแสดงโชว์ จู่ ๆ เขาก็มีอาการไม่สบาย อัตราการเต้นของหัวใจของเขาพุ่งสูงขึ้น 160 ครั้งต่อนาที เมื่อแพทย์ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ชมของเขามาช่วยจนอาการดีขึ้น เขาก็ลุกขึ้นพูดต่อผู้ชมทุกคนว่า ประธานาธิบดีของอียิปต์ นายกามาล อับเดล นาซเซอร์ ฮุซเซน เสียชีวิตแล้วหรือกำลังจะเสียชีวิต ซึ่งในหมู่ผู้ชมมีนักข่าวรวมอยู่ด้วย นักข่าวจึงพยายามตรวจสอบข้อเท็จจริงก็พบว่านายกามาล อับเดล นาซเซอร์ ฮุซเซน ยังไม่เสียชีวิต ส่งผลใให้ผู้ชมต่างพากันหัวเสียและขอคืนค่าบัตร

       แต่เมื่อเวลาผ่านไป 20 นาที ก็มีคนวิ่งเข้ามาในห้องและประกาศว่า สถานีวิทยุไคโรประกาศว่าประธานาธิบดีอียิปต์เสียชีวิตแล้วด้วยอาการหัวใจวาย จากนั้น ชื่อเสียงของเก็ลเลอร์ก็ดังเป็นพลุแตกชั่วข้ามคืน

       เก็ลเลอร์นั้นยังถูกทดสอบความสามารถด้านพลังจิตต่าง ๆ ด้วยซีไอเอ ทั้งการให้เขาทายสิ่งที่อยู่ในกล่องทึบ 12 ครั้ง ทายหย้าลูกเต่าที่อยู่ในกล่องทึบ 8 ครั้ง เขาทายถูกทั้งหมด 

สรุป

       ถ้าเรามองถึงวิทยาศาสตร์ที่พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด ปริศนาหลายอย่างถูกคลี่คลายลงทีละเรื่อง ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องพลังจิต หรือสิ่งเหนือธรรมชาติอื่น ๆ เราก็คงจะได้พบความจริงในสักวัน ในตอนนี้เราเพียงแค่ต้องใช้วิจารณญาณให้มาก ในการที่จะเชื่ออะไรก็ตาม

       แต่กับเว็บไซต์หวยออนไลน์ Lottoone คือเว็บที่ทุกคนสามารถเชื่อได้ว่าดีจริง เพราะเป็นเว็บที่ปลอดภัย 100% จากทีมงานที่มีคุณภาพ ให้ผู้เล่นได้สัมผัสกับความสะดวกสะบายทุกครั้งที่ใช้บริการ พร้อมด้วยอัตราจ่ายที่สูงที่สุดในประเทศไทย ดังนั้นผู้เล่นทุกคนจึงสบายใจทุกครั้งเมื่อใช้เว็บไซต์ของเราแน่นอน สามารถ สมัครสมาชิก ได้แล้ววันนี้

Leave A Comment?